26 ก.พ. 2554

Weibo (เวยป๋อ) microblog ของจีน

ที่มา chinainternetwatch.com โดย Rocky Fu

เมื่อวานนี้ผมเอารถไปเข้าศูนย์เพราะแอร์เสีย ระหว่างที่นั่งรอคิวอยู่ก็ไปหยิบนิตยสาร TIME มาอ่านฆ่าเวลาเล่น ไม่ได้กระแดะอยากอ่านภาษาอังกฤษหรอกนะครับ เพียงแต่มองผ่านไปบนชั้นหนังสือของเขาแล้วไม่เห็นมีอะไรน่าอ่าน เลยหยิบมามั่ว ๆ เพราะใกล้มือและรูปหน้าปกสะดุดตาก็เท่านั้น แต่พอเปิดไปดูหน้าสารบัญเจอสกู๊ปเรื่องการเติบโตของ social media และ microblog ในประเทศจีน อ๊ะ เข้าเรื่องที่ผมกำลังสนใจอยู่พอดี

เนื้อหาโดยย่อก็พูดถึงที่มาของ social media และ microblog ในประเทศจีน ตั้งแต่สมัยที่ facebook และ twitter ยังไม่ถูกบล็อค จนเมื่อโดนบล็อคไปหลังเหตุการณ์จราจลในเมืองอุยกูร์ (Uighur) กลางปี 2009 จึงกลายเป็นช่องว่างให้เกิด microblog ของจีนขึ้น และได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อยู่ภายใต้การเซ็นเซอร์เนื้อหาอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม มันจะเป็นงานที่ยากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับรัฐบาลหรือเจ้าของเว็บไซต์เองที่จะควบคุมเนื้อหาบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะในยุคที่เป็น Web 2.0 ที่ผู้ใช้มีส่วนในการเผยแพร่เนื้อหาบนเว็บอย่างกว้างขวาง สุดท้ายก็สรุปว่าการเติบโตของ social media ในจีนมีส่วนช่วยในการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในท้องถิ่น ผ่านการให้ข้อมูลโดยประชาชนที่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อ ถือว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของ social media ซึ่งรัฐบาลกลางรู้สึกพอใจ และคงจะปล่อยให้เล่นกันต่อไป ตราบใดที่ชาวเน็ตไม่ไปแตะเรื่องที่ล้ำเส้นอย่าง Falungong หรือ Liu Xiaobo เข้านะครับ 

เราข้ามเรื่องการเมืองในแบบ TIME ไปดีกว่า ผมหยิบเอาเรื่องนี้ขึ้นมาเขียนก็เพื่อทำความรู้จักกับ microblog ของจีนที่ชื่อว่า Weibo (ภาษาจีนอ่านว่า เวยป๋อ แปลตรง ๆ ว่า microblog เลยครับ) อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่ามันเกิดขึ้นได้เพราะมีช่องว่างหลังจากที่ทั้ง facebook และ twitter โดนบล็อค มันถูกตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคม 2009 โดย Sina (มีชื่อในภาษาจีนว่า ซินลั่ง) เว็บท่าชื่อดังของจีน ซึ่งประสบความสำเร็จในฐานะผู้รวบรวมข่าวสารภาษาจีนออนไลน์มาตั้งแต่ยุคแรกของธุรกิจอินเตอร์เน็ตในจีน

ในขณะที่ Baidu ครองตลาด search engine ไปเรียบร้อยแล้ว Sina เองกำลังมองหาช่องทางใหม่ในการขยายธุรกิจของตัวเอง และเมื่อเปิดตัว Weibo ไปได้ไม่นาน มันก็มีบริการที่ล้ำหน้าไปกว่าต้นแบบอย่าง twitter เสียอีก ผู้ใช้สามารถที่จะโพสต์รูปภาพหรือวีดีโอบน Weibo ได้โดยตรง ในขณะที่ twitter ยังต้องอาศัยผู้ให้บริการภายนอกมารองรับเรื่องนี้ นอกจากนี้ Weibo ยังไม่เพียงให้ผู้ใช้สามารถ retweet ข้อความของคนอื่นเท่านั้น แต่ยังสามารถ comment หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมในแต่ละข้อความได้ด้วย

"ในตอนเปิดตัวนั้นมันก็เป็นบริการที่ก้าวหน้าไปกว่า twitter แล้ว คนมักจะคิดว่ามันเหมือนกับ twitter จริงอยู่ที่มันมีหลายอย่างเหมือน twitter แต่ผมคิดว่ามันเป็นส่วนผสมระหว่าง twitter กับบางอย่างใน facebook มากกว่า" CEO ของ Sina ให้สัมภาษณ์กับ TIME อย่างนั้น

ผมเองแทบไม่ค่อยได้ใช้ twitter เท่าไหร่ เพราะเพื่อน ๆ เล่นกันแต่ facebook จึงไม่รู้ว่าที่เขาคุยนั้นจริงหรือเปล่า แต่อ่านจากคำสัมภาษณ์แล้วรู้สึกว่าเขา "มั่น" มากเลยนะครับ

แม้จะให้บริการภายใต้ข้อจำกัดของการเซ็นเซอร์ตัวเองเพื่อให้ทางการจีนเปิดทางให้ แต่ Weibo ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากภายในเวลาอันรวดเร็ว ในเดือนตุลาคมปี 2010 หรือ 14 เดือนหลังการเปิดตัว บริษัท Sina ก็ประกาศว่า Weibo มีจำนวนผู้ใช้ถึง 50 ล้านคนแล้ว แถมยังบอกอีกว่าจะมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเดือนละประมาณ 10 ล้านคน ยังไม่พอ เขายังประมาณการยอดผู้ใช้ว่าจะถึง 150 ล้านคนภายในปี 2011 นี้ - โอ้ มาย จอร์จ !

ไม่ต้องไปตกตะลึงอึ้งอ้ำอะไรกับเขานักหรอกครับ สำหรับประเทศจีนผมก็เห็นตัวเลขเป็นสิบล้านร้อยล้านเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่า microblog เจ้านี้เขาแรงจริง ๆ แม้จะมีคู่แข่งที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วเคลมว่ามียอดผู้ใช้ในระดับที่จะเป็นคู่แข่งกันได้ แต่ Weibo ก็ยังเป็นผู้นำตลาดอยู่อย่างเหนียวแน่น

ถ้าอยากรู้เรื่อง Weibo ของ Sina มากกว่านี้ ก็สามารถไปดาวน์โหลดข้อมูล (ภาษาอังกฤษ) ได้ที่ chinainternetwatch นะครับ มีข้อมูลละเอียดทีเดียว และผมเชื่อว่าถ้าคุณสนใจการตลาดอินเตอร์เน็ตในจีนล่ะก็ คุณคงต้องเหลียวมอง Weibo เอาไว้บ้างแหละ

ที่มา บางส่วนจากนิตยสาร TIME, Feb 21, 2011 เรื่อง Wired Up และ Chinainternetwatch.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น